วันจันทร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

Global Warming, Global Warning

อากาศที่ร้อนจนผิดปกติแบบนี้ คงทำให้ใครต่อหลายคนอึดอัดพอตัว
พัด พัดลม แอร์ เป็นวิวัฒนาการของความเย็นที่ถูกคิดค้นขึ้นมา
เพื่อบรรเทาความร้อนให้แก่มวลมนุษยชาติ
ต้องขอกราบขอยพระคุณคนคิดมา ณ ทีนี้

เค้าว่ากันว่าปัจจุบัน โลกร้อนขึ้นกว่าเก่า 4 องศาเซลเซียส โดยเฉลี่ย
ฟังดูเป็นเรื่องขี้ผง แต่ถ้าวัดจากความรู้สึกแล้ว
เดี๋ยวนี่มันร้อนกว่าตอนเราเด็กๆแบบรู้สึกได้ชัดทีเดียว

และบรรดานักวิชาการก็ออกมาถกเถียงกันมากมาย
บ้างก็ว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกจะละลายมาจนน้ำท่วมโลก
บ้างก้ว่าไม่เป็นไรน้ำแข็งมันละลายตลอดเวลาอยู่แล้ว
แล้วเราควรจะเชื่อใครดี
เชื่อฝั่งที่เตือนสติเรา หรือเชื่อฝั่งที่ทำให้เราสบายใจดี

ทีนีสิ่งที่ช่วบชีวิตเราๆท่านๆจากความร้อน ที่ใกล้ชิดชีวิตเรามากที่สุด
คงหนีไม่พ้น แอร์ หรือ เครื่องปรับอากาศ
เมืองร้อนแบบบ้านเรา แทบทุกที่ต้องติดแอร์
ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงต่างๆ ตึกสูงระฟ้า
รวมไปถึงบ้านข่องห้องหอของประชาชนทั่วไป
ล้วนแล้วแต่มีแอร์กันเป็นส่วนมาก

ปัญหาของแอร์ไม่ได้อยู่ที่ความเย็นที่มันพ่นออกมาให้เรา
มันอยู่ที่ความร้อนที่มันพ่นออกมาต่างหาก

แอร์เป็นตัวอย่างของการยื่นหมูยื่นแมวที่ดีมากตัวอย่างหน่ึง

ข้างหนึ่งของแอร์คือความเย็น
อีกข้างคิอความร้อน

ใครอยากได้ความเย็น ต้องแลกด้วยความร้อน

ฟังดูดีและมีเหตุผลดีทีเดียว
แต่ทีนี้ไอ้ความเย็นที่อยู่ข้างใน ก็ดีอยู่หรอก
แต่ความร้อนที่พ่นออกมานี่สิ ใครรับไป?

ในตอนกลางวันที่ค่อนข้างร้อนอยู๋แล้ว ทุกๆที่ก็เปิดแอร์กันเป็นส่วนมาก
ความร้อนเท่าไหร่กันที่ถูกพ่นออกมา
ในตอนกลางคืนถ้าไม่เปิดแอร์ก็จะนอนไม่หลับ

ไอ้ความร้อนนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนยอมแพ้ได้โดยง่าย
ร้านอาหารบางร้านมีแอร์บริการเป็นปกติ
บางร้านไม่มีแอร์ แต่ก็ยังมีพัดลม
บางร้านแยกส่วนชัดเจน โซนมีแอร์คิดเงินเพิ่มคนละ 3 บาท
นัยว่าใครอยากสบายต้องจ่ายเพิ่ม ฟังดูน่าตลก
แต่ที่ตลกกว่าก้คือมีคนยอมแพ้ความร้อน หรือที่จริงแพ้ใจตัวเอง
เข้าไปนั่งซะมากมาย อยากรู้ว่า ถ้าวันนึงไม่มีใครเข้าไปนั่งเลย
ร้านนั้นจะยอมเปิดแอร์ทิ้งเฉยๆโดยไม่ได้เงินเพิ่มรึเปล่าหนอ

ทีนี้ในเมื่อแอร์มันทำให้โดยรวมร้อนขึ้นมากกว่าที่ทำให้ส่วนตัวเย็น
แต่ทุกคนก็ยังรักที่จะเปิดแอร์อยู่เหมือนเคย
หลายคนรวมถึงตัวผมเองก็คิดว่า ใครๆมันก็เปิดกันทั้งนั้น
หรือคิดว่า ก็มันร้อนนี่หว่า จะให้ทำไง
นั่นสิ บางทีมันร้อนจริงๆจะให้ทำยังไง
หลายต่อหลายครั้งที่การเดินทางอันร้อนระอุ
ทำให้เราทรมาน กลับมาอยากจะอาบน้ำให้หายร้อน
เปิดน้ำมา ก็ได้น้ำร้อนแบบอัตโนมัติ ทั้งๆที่ไม่ได้เปิดเครืื่องทำน้ำอุ่น
เพราะน้ำมันถุูกเผามาตั้งแต่อยุ๋ในท่อประปาแล้ว
ทางรัฐบาลคงอยากให้ประชาชนได้ใข้น้ำที่ผ่านการฆ่่าเชื่อแล้ว

เมื่อฝันแรกสลายไปกับสายน่้ำอุ่นๆ
ฝันที่สองจึงต้องรีบสายต่อ นั่นคือแอร์เย็นฉ่ำ
ที่กระหน่ำเปิดไว้คอยท่า
ทำให้กิเลสในตัวสยายปีกขึ้นมาคลุมทับจิตใจที่ตั้งมั่นจะช่วยโลกร้อน

เคยลองคิดเล่นๆว่า ถ้าทุกคนในโลกนี้ปิดแอร์พร้อมกัน
มันจะช่วยลดอุณหภูมิของโลกลงไปได้เยอะเท่าไหร่กัน

ถ้ามันเยอะก็น่าลุ้นที่จะลอง
แต่ถ้ามันน้อยคงดูไม่คุ้มเท่าไหร่

ทุกวันนี้ อุณหภูมิห้องที่ 25 องศาเซลเซียส
ที่ตอนเด็กๆเคยคิดว่าร้อนน่าดู
กลับดูเย็นยะเยือกอย่างน่าประหลาด
ถ้าเทียบกับ 38 องศาเซลเซียส กลางแดดเปรี้ยง

เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าไม่มีแอร์ ตู้เย็น และน้ำแข็ง
ถ้าการไม่มีมันแล้วโลกดีขึ้น จะมีใครพร้อมทำบ้าง

แต่ขอสารภาพตามตรงว่าตอนที่เขียนอยู่ แอร์ที่บ้านเย็นดีจริงๆ

๒ ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เฮ้ย...กูว่ามึงขาดแอร์ไม่ได้แน่ๆหวะ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เหรอ แต่เห็นมันเคยคั่วอยู่พักนึง แล้วก็เลิกรากันไปนี่